
Dismal
“ อ๊า! สายแล้ว แย่แน่ๆ ทำยังไงดี ขืนพลาดรถเมล์เที่ยวต่อไปมีหวังโดนหัวหน้าบ่นหูชาอีกแน่ๆเลย ให้ตายสิเจ้านาฬิกาปลุกบ้านี่ ฮือ” เสียงร้องของชายหนุ่มที่กำลังร้อนร่นรีบวิ่งหน้าตั้ง พร้อมแบกกระเป๋าและเอกสารด้วยสภาพที่ทุลักทุเล เสื้อผ้าและทรงผมก็ยังไม่ได้จัดทรงให้เรียบร้อย ไม่มีเวลามาจัดการแล้ว ก็เพราะเมื่อคืนมัวแต่เล่นเกมจนดึกดื่น แถมตอนเช้านาฬิกาก็ไม่ยอมปลุก ถึงแม้จะรู้ว่านี่เป็นความผิดของตัวเอง แต่ก็ไม่อยากจะยอมรับก็ได้แต่โทษนู่นโทษนี่ไปเรื่อย
“แฮ่กๆ อย่างน้อยก็มาถึงป้ายรถเมล์จนได้สินะ โชคดีที่รถเมล์ยังไม่มา ดีล่ะจะได้จัดเสื้อผ้าและทรงผมซะหน่อย”ว่าแล้วก็รีบจัดเสื้อผ้าและทรงผมของตัวเองให้เรียบร้อย แต่ยังไม่ทันจะได้จัดให้เสร็จ ก็มีหญิงชราที่ดูเหมือนจะเป็นหมอดูกำลังจ้องมองมาที่ชายหนุ่มตรงหน้า ชายหนุ่มก็ได้แต่มองแล้วก็สงสัยว่า ยายแก่คนนี้มีปัญหาอะไรหรือเปล่า ทำไมเอาแต่จ้องมองมาทางนี้อยู่ได้ เอาเถอะอย่าไปยุ่งด้วยเลยจะดีกว่า หันมาสนใจรถเมล์ดีกว่า เดี๋ยวจะพลาดซะก่อน แต่ยังไม่ทันที่จะได้หันไปมองรถ
“นี่ พ่อหนุ่มคนนั้นนะ”หญิงชราพูดขึ้น ชายหนุ่มก็ได้แต่มองหันซ้ายหันขวา หวังว่ายายคนนี้คงจะไม่ได้เรียกเราใช่ไหม
“พ่อหนุ่มนั่นแหละ ไม่ต้องหันไปมองทางไหนหรอก ฉันเรียกเธอนั้นแหละ”หญิงชราพูดพลางชี้มาที่ชายหนุ่ม
“ผะ..ผมหรอ”ชายหนุ่มชี้ที่ตัวเองอย่างไม่เข้าใจว่าหญิงชราคนนี้ต้องการอะไรกันแน่
“ใช่แล้ว เข้ามาใกล้ๆฉันสิ ฉันมีอะไรจะบอก”หญิงชราพยักหน้า พลางกวักมือเรียกชายหนุ่ม แต่ชายหนุ่มไม่ได้อยากจะเข้าไปสนทนาด้วยสักหน่อย เพราะตอนนี้ตัวเขาเองก็กำลังจะแย่เพราะกำลังจะสาย แต่อะไรดลใจหรือโดนสะกดหรืออะไรชายหนุ่มก็ไม่ทราบ ร่างกายค่อยๆขยับและเดินเข้าไปหาหญิงชรา ก่อนที่จะลงไปนั่งที่เก้าอี้หน้าหญิงชรา
“มีอะไรหรอ..ครับ”ชายหนุ่มถามออกไปด้วยเสียงที่ค่อนข้างสั่นและหวาดระแวงอยู่ไม่น้อย และเมื่อลงมานั่งที่หน้าของหญิงชราก็เหมือนรอบๆตัวของเขาดำมืด ไม่แม้แต่จะได้ยินเสียงใด หรือแม้แต่รถเมล์ที่กำลังขับเข้ามาใกล้ป้ายรถเมล์เรื่อยๆ เขาได้ยินเพียงเสียงของหญิงชรา
“วันนี้จะมีบางสิ่งเกิดขึ้นกับพ่อหนุ่ม บางสิ่งบางอย่างที่จะเปลี่ยนชีวิตของพ่อหนุ่ม..ไปตลอดกาล”หญิงชรามองชายหนุ่มพร้อมกับยิ้มกว้าง ซึ่งรอยยิ้มนั้นไม่ได้ทำให้ใบหน้าเหี่ยวย่นของหญิงชราดูเป็นมิตรขึ้นมาเอาซะเลย
“บางสิ่งบางอย่างอย่างงั้นหรอครับ แล้วมันคืออะไรล่ะ”ชายหนุ่มถามถึงสิ่งที่หญิงชราบอก
“นั้นสิ อะไรกันนะ..เรื่องนั้นเธอจะต้องเป็นคนไปพบเจอด้วยตัวเอง ฮะฮะ”หญิงชราหัวเราะออกมาอย่างเบาๆ ชายหนุ่มรู้สึกสงสัย ‘บางสิ่งบางอย่างจะเกิดขึ้นและเปลี่ยนชีวิตของเขา’ มันคืออะไรกันแน่
บรืน!
“อ๊ะ! ให้ตายสิ รถเมล์ รอด้วย!” ทันใดนั้นเสียงรถเมล์ก็ดัง ทำให้ชายหนุ่มที่เหมือนกำลังตกอยู่ในภวังค์รู้สึกตัว ก่อนจะรีบหิ้วกระเป๋าและกองเอกสารวิ่งตามรถเมล์ไป แต่ชายหนุ่มก็ยังรู้สึกสงสัย ก่อนจะหันกลับไปมองที่หญิงชราก็พบกับรอยยิ้มที่ดูไม่น่าไว้วางใจ
“แปลกจังยายแก่คนนั้น”ชายหนุ่มคิด แต่ก็ปล่อยผ่านเรื่องนี้ไป
เวลาล่วงเลยมาถึงช่วงเย็นของวันนั้น
“เฮ้อ ในที่สุดก็เลิกงานเสียที”ชายหนุ่มบ่นพลางกำลังเก็บเอกสารเข้ากระเป๋า ก่อนจะมีมือของใครบางคนมาวางพาดที่คอ
“เฮ้ ว่าไงเซน ไปดื่มกันสักหน่อยไหม”ชายหนุ่มหน้าตาดูเป็นมิตรแบบสุดๆกำลังกอดคอของเซนก่อนจะชวนให้ไปต่อหลังเลิกงาน ทั้งที่ใบหน้าของเซนเหนื่อยแทบจะขาดใจตายได้อยู่แล้ว
“เอ่อ ไม่ล่ะโจฉันอยากกลับไปพักแล้วล่ะ”เซนทำมือโบกไปมาเป็นเชิงปฏิเสธ แต่โจไม่ปล่อยให้เซนหนีไปได้หรอก
“ไม่เอาน่าเพื่อน ไปเหอะ ถือว่าไปพักผ่อนยังไงล่ะ”ไม่พูดเปล่าโจกลับลากเซนไปโดยไม่ฟังคำขัดค้านแต่อย่างใด ให้ตายเถอะ
ในที่สุดเซนก็ถูกลากมานั่งอยู่ในบาร์แห่งหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าแค่มานั่งดื่มน้ำเปล่าแล้วกินอาหารอย่างเดียวไม่ใช่สิ่งที่โจต้องการแน่นอน สุดท้ายเลยจบที่เซนโดนโจเอาเหล้ายัดมือ แถมยังไม่ใช่แค่ 1-2 แก้ว สุดท้ายเซนก็หนีออกมาได้ แต่สภาพของเซนก็ไม่ต่างกับซอมบี้ที่แค่จะเดินให้ตรงยังยากเลย
“อ๊า แย่แล้วสิ แล้วแบบนี้พรุ่งนี้จะไปทำงานไหวไหมเนีย”เซนเดินไปก็พลางบ่นไป โดยที่ไม่ได้สังเกตข้างหน้าเลย
ตุ้บ!
“เอ๊ะ อะไรน่ะ”ได้ยินเสียงเหมือนอะไรตก เซนเลยก้มลงไปเก็บ ก็เห็นว่าน่าจะเป็นแผ่นอะไรสักอย่าง เซนเลยเก็บขึ้น
“เอ่อ ขอโทษนะครับดูเหมือนว่าคุณจะทำของ..ตก อ้าว”เมื่อหันกลับไปกลับพบว่าที่ข้างหลังของเซนไม่มีใครเลย แปลกจังแหะ เอาไงดีกับเจ้าสิ่งนี้ดีเนีย เอาเป็นว่าเดี๋ยวค่อยเอาไปที่สถานทีตำรวจพรุ่งนี้ละกัน วันนี้กลับบ้านก่อนดีกว่า
“ในที่สุดก็ได้พักสักที เฮ้อ”เมื่อถึงห้องเซนก็ทิ้งตัวลงกับที่นอนอย่างหมดแรง
“วันนี้เหนื่อยจริงๆนะ ว่าแต่…”เซนย้อนนึกไปถึงคำพูดของหญิงชราเมื่อเช้า วันนี้ทั้งวันก็ไม่เห็นมีเรื่องอะไรแปลกๆนะ นอกจากเจ้าแผ่นซีดีแปลกๆนั้นอะ
“จริงสิแผ่นซีดีนั่น”พูดจบเซนก็รีบไปคว้าเจ้าแผ่นซีดีในกระเป๋า ก่อนจะเปิดคอมแล้วใส่แผ่นซีดีเข้าไป
“ไหนดูสิว่านี่มันเป็นแผ่นของอะไรกันนะ”เซนพูดไปก็พลางนึกอะไรแปลกๆไป แทบจะอดใจรอไม่ไหวที่จะดูเนื้อหาข้างในแล้ว
สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าของเซนกลับเป็นเพียงจอสีเทาที่ไม่มีภาพอะไรเลย มีเพียงเสียงซ่าของหน้าจอที่ไม่ได้บ่งบอกถึงอะไรอีกเช่นกัน
“แปลกแหะ คอมเสียหรือยังไงกัน ไม่ได้นะเว้ย ยังผ่อนไม่หมดเลย จะมาพังเอาตอนนี้ไม่ได้นะ”เซนพูดไปก็เอามือทุบจอคอมไปพลางหวังว่ามันจะหาย
เมื่อจอสีเทากลับกลายเป็นจอสีขาว เซนก็ได้แต่หยุดมอง ก่อนที่จะเกิดแสงสว่างวาบขึ้นชับพลัน เซนหลับตาปี๋เพราะแสงสีขาวมันแสบตาเกินไป แต่เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้งเซนก็ต้องตกใจ เพราะที่ๆเขายืนอยู่กลับไม่ใช่ห้องของตัวเอง กลับเป็นที่ไหนสักแห่งที่เต็มไปด้วยตึกใหญ่มากมาย แต่กลับดูเหมือนถูกทิ้งร้างมานาน
“ที่นี่ที่ไหนกันนะ นี่ฉันฝันไปหรอ โอ๊ย! ไม่ใช่ฝันนี่น่า”เซนงงงวยกับสิ่งที่ตัวเองเห็น เขาหยิกแก้มตัวเองหวังว่าสิ่งที่เห็นอยู่นี้อาจจะเป็นเพียงแค่ความฝัน แต่เมื่อหยิกก็พบว่าเจ็บ นี่ไม่ใช่ความฝัน งั้นนี่ก็เป็นความจริงนะสิ
“นี่ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน!” เซนพูดกับตัวเองอย่างขวัญเสีย คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก
กึก!
ทันใดนั้นก็มีเสียงเหมือนใครเหยียบหรือกำลังเดินมาทางนี้ เมื่อหันไปมองเซนก็พบกับใครบางคนไกลๆ
“นั้นคนนี่ ไชโย รอดแล้วเรา”เซนรีบเดินไปหาคนๆนั้น บางทีเขาอาจจะพอบอกหรือช่วยเหลืออะไรเขาได้บ้างก็ได้
“ขอโทษนะครับ พอดีผมอยากสอบถามอะไรหน่อยครับ”เซนเดินมาถึงตรงชายปริศนาคนนั้นก่อนจะเอ่ยถามออกไป
เมื่อชายคนนั้นหันกลับมา ใบหน้าและผิวของชายคนนั้นดูซีดเผือด เหมือนกับไม่มีเลือดไปหล่อเลี้ยงเลย..
“ไม่จริง นี่เขาเหมือนไม่ใช่คนเลย มันตัวอะไรกันแน่เนีย”เซนตกใจอย่างสุดขีดกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า
“แฮร่”ยังไม่ทันจะได้หายตกใจ สิ่งมีชีวิตตรงหน้าก็พุ่งเข้ามาที่เซนอย่างเร็ว ทำให้เซนล้มลงไปนอนกับพื้น และมันพยายามที่จะพุ่งเข้ามาโจมตีเซนอีกครั้ง เซนรีบหันไปมาเพื่อที่จะหาอะไรก็ได้ใช้ป้องกันตัว เซนหันไปเจอกับท่อนไม้ก่อนจะรีบหยิบขึ้นมากันตัวเองกับเจ้าสิ่งมีชีวิตที่แสนน่ารังเกียจข้างหน้า
“ให้ตายสิ..ทำไมแรงเยอะขนาดนี้นะ”เซนคิด แต่ก็พยายามดันเจ้าสิ่งมีชีวิตนี้ออกไปให้ได้ แต่ไม่ไหวเรี่ยวแรงค่อยๆหมดลงเรื่อยๆ นี่เขาจะต้องมาตายอยู่ตรงนี้แล้วหรอ นี่คือสิ่งที่หญิงชราบอกเขาหรอ ไม่นะ เขายังไม่อยากตาย
“ไม่นะ!”เซนกรีดร้องออกมาอย่างที่ไม่เคยกรีดร้องออกมาก่อน
ปัง!
ทันใดนั้นเกิดเสียงปืนดังขึ้นสะนั่นหวั่นไหว เจ้าสิ่งมีชีวิตตรงหน้าล้มลงไปแล้ว เซนที่กำลังตกใจและงุนงงกับสิ่งที่พึ่งเกิดใหม่อีกครั้ง ก่อนจะมองเนื้อตัวของตัวเองที่เต็มไปด้วยเลือดของซากศพข้างๆ นี่มัน..เกิดอะไรขึ้น
“เฮ้! ไม่เป็นไรนะ”เสียงของใครบางคนร้องถามเซน ก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นไปมองก็พบกับผู้ชายที่มีผ้าคลุมคลุมหัวไว้ แถมยังใส่แว่นตาและผ้าปิดปากอีก ในมือถือปืนไรเฟิลไว้ ก่อนที่เขาจะแบมือออกมาเป็นเชิงจะช่วยพยุงเซนขึ้นมา เซนจึงยื่นมือไปและลุกขึ้นยืน
“ขะ..ขอบใจนะ”เซนพูดขอบคุณชายตรงหน้าเขาที่ดูแล้วก็เหมือนจะอายุพอๆกับเขา
“เรื่องนั้นไว้ก่อน รีบหนีออกไปจากที่นี่ก่อนดีกว่า เสียงปืนเมื่อกี้น่าจะทำให้เจ้าพวกนั้นแห่กันมาที่นี่แน่นอน ตามมาทางนี้”ชายปริศนาวิ่งนำเซนไป ให้ตายสิหมอนี่วิ่งเร็วชะมัด รู้งี้ตอนเรียนน่าจะสนใจวิชาพละมากกว่านี้ก็ดี
วิ่งหนีมาได้สักพักชายปริศนาก็บอกว่าตรงนี้ปลอดภัยแล้ว เซนที่วิ่งตามมาก็หมดแรงล้มลงไปนั่งกับพื้น
“ใน..ที่สุด..ก็ได้..พักหาย..ใจสักที”เซนพูดไปก็พลางหอบไปพลาง
“ตรงนี้น่าจะปลอดภัยนะ”ชายปริศนาบอกกับเซน ตอนนี้พวกเขามาหลบอยู่ในตึกร้างแห่งหนึ่ง โดยที่เขากำลังมอบออกไปที่หน้าต่างเพื่อดูราดราว
“นี่ ว่าแต่นายเป็นใครหรอ ทำไมถึงได้ช่วยผมล่ะ”เซนเดินเข้ามาใกล้กับชายปริศนา
ชายปริศนาถอดผ้าคลุมและแว่นตาออก เผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงๆ “ฉันชื่อแอช” เขาแนะนำตัว แอชเป็นชายหนุ่มผมสีเทา ดวงตาสีฟ้า ผิวขาว ใบหน้าเขาสวยราวกับผู้หญิง
“สวัสดีแอช ผมชื่อเซนนะ ยินดีที่ได้รู้จัก”เซนยื่นมือออกไปเพื่อจะจับทำความรู้จักกับแอช แอชมองก่อนจะยื่นมาจับมือเขาเช่นกัน
“ว่าแต่ เจ้าพวกนั้นคืออะไรหรอ”เซนถามพลางมองออกไปนอกหน้าต่างที่เมื่อกี้แอชมองอยู่
“เจ้าพวกนั้นคือดิสมอล เป็นสิ่งมีชีวิตที่เหมือนตายไปแล้วแต่ก็ไม่ตาย มันมีสัมผัสที่ไวต่อเสียงมาก อย่าเผลอไปโดนมันกัดเข้าล่ะ ไม่งั้นก็จะกลายเป็นแบบพวกมันไป ทางเดียวที่จะกำจัดมันได้คือต้องจัดการสมองของมันซะ”แอชอธิบายถึงสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าดิสมอล และการจัดการพวกมัน
“หืม ก็เหมือนพวกซอมบี้ที่เราเคยเล่นในเกมเลยสินะ”เซนพูดพึมพำกับตัวเอง
“อะไรนะ”แอชได้ยินที่เซนพูดก็เกิดสงสัยเลยหันไปถาม
“อะ เปล่าหรอกๆ ว่าแต่ว่านะที่นี่คือที่ไหนหรอ”เซนถามแอช ซึ่งแอชก็หันมามองที่เซนอย่างไม่เข้าใจ
“ที่นี่คือลอส อดีตเคยเป็นเมืองที่รุ่งเรืองมาก แต่เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เชื้อที่ถูกวิจัยในห้องทดลองรั่วไหลออกมา”แอชอธิบายให้เซนฟังแต่ก็ยังคงมองเซนด้วยความสงสัย
“อ่อ อย่างนี้นี่เอง”เซนตอบ แต่เหมือนพึ่งจะนึกออกว่ายังไม่ได้ขอบคุณที่แอชช่วยชีวิตเขาไว้เลย
“เอ่อ แอชคือว่านะ..เมื่อกี้นี้ขอบคุณนะ”เซนพูดกับแอชด้วยเสียงที่แผ่วเบา
“หืม เมื่อกี้นายพูดว่าอะไรนะ ฉันไม่ได้ยิน”แอชที่ไม่ได้ยินจึงยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆเพื่อจะได้ฟังชัดๆ
“เอ๊ะ..อะ..เอ่อ..คะ..คือ..มะ..เมื่อกี้..ขะ..ขอบใจนะ..ที่ช่วยผมน่ะ”ด้วยความตกใจที่อยู่ๆแอชก็เขยิบหน้าเข้ามาใกล้ๆ ทำให้เซนตั้งตัวไม่ถูก
“อ่อ เรื่องแค่นี้เอง ไม่เป็นไรหรอก”แอชพูดก่อนจะกลับไปยืนอยู่ที่เดิม
“เอ่อ ละ..แล้วนายจะทำอะไรต่อหรอ”เมื่อตั้งสติได้เซนก็ถามถึงเป้าหมายต่อไปจากแอช เพราะเท่าที่ดูก็เหมือนว่าอยู่ที่นานไปก็ไม่ดี
“อืม ฉันว่าจะเดินทางไปทางเหนือ ที่นั่นอาจจะพอมีสเบียงและที่พักให้พอหลบได้สักพัก”แอชบอก ก่อนจะเดินไปที่กองไฟ เพราะจากที่ดูคืนนี้น่าจะต้องนอนที่นี่
“งั้นพาผมไปด้วยได้ไหม”เซนรีบเดินมาที่แอช
“อืม..ก็ได้ เอาสิ แต่นายจะต้องไม่ทำตัวเป็นตัวถ่วงของฉันนะ”แอชตอบ
“อืม ได้เลย”ผมตอบ
หลังจากจบบทสนทนาแอชบอกว่าเขาจะเฝ้าสังเกตการณ์ให้ก่อน ให้ผมนอนก่อนได้เลย ผมจึงนอนหลับพักผ่อน เรื่องที่เกิดขึ้นนี่อย่างกับความฝันเลยแหะ
เช้าวันรุ่งขึ้นเซนกับแอสออกเดินทางเพื่อมุ่งหน้าไปทางเหนือ เพื่อมองหาความช่วยเหลือ
"การเดินทางครั้งนี้น่าจะเป็นอะไรที่อันตรายมากแน่ๆ"แอชพูดพลางมองไปรอบๆ
"หรอ..แฮ่ก..แล้ว..แบบนี้..ผมจะรอด..ไหมเนีย"เซนพูดไปพลางหอบไปด้วย เพราะด้วยร่างกายที่อ่อนแอจากการไม่เคยออกกำลังกาย ทำให้ไม่นานก็เหนื่อยแทบตาย
"อืมม...อะ"แอชทำท่าเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่างก่อนจะโยนปืนมาทางเซน
"ห้ะ...เห้ยๆ ผะ..ผมยิงปืนไม่เป็นอะ มัน..มันจะลั่นไหมเนีย"เซนถือปืนด้วยความเงอะงะปนกลัว เพราะในชีวิตนี้ยังไม่เคยจับปืนมาก่อน
"ไม่ต้องห่วง ยังไม่ได้ปลดเซฟตี้หายห่วงได้ ส่วนวิธีนะก็ทำอย่างนี้.."แอชเดินเข้ามาใกล้เซนเพื่ออธิบายวิธีการใช้ปืน
ตึกตัก ตึกตัก
ตอนนี้ใบหน้าของแอชอยู่ห่างจากเซนแค่เพียงลมหายใจ มือของแอชจับที่มือของเซนทำให้ใจของเซนเต้นแรงอย่างไม่เป็นจังหวะ ใบหน้าร้อนผ่าวราวกับคนเป็นไข้
"ส่วนตรงนี้ก็...นี่นายไม่สบายหรอ ทำไมหน้าแดง"แอชหันมามองหน้าเซนที่กำลังแดงเป็นลูกมะเขือเทศสุก
"ห้ะ เปล่าๆผมสบายดี สงสัยอากาศคงร้อน"เซนรีบปฏิเสธอย่างทันควัน
"ไหนดูสิ เพื่อความชัวนะ"แอชพูดจบก็เอาหน้าผากของตัวเองมาชนที่หน้าผากของเซนก่อนจะรับตาลงเพื่อวัดอุณหภูมิ ทำให้เซนประหม่ามาก ลมหายใจของแอชกระทบที่ปลายจมูกของเซน หากเพียงแค่เซนขยับแม้แต่นิดเดียวริมฝีปากคงได้สัมผัสกันเป็นแน่
"อืม..ก็ไม่ได้ป่วยนี่ รักษาตัวเองดีๆนะ ถ้าหากป่วยขึ้นมาแล้วพวกดิสมอลมันโจมตีจะทำให้ลำบากเอาได้"
"อะ..อืม ขอบใจนะ"เซนพูดจบก็รีบเอามือทาบอกเพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเอง
"ไปเถอะ ขืนชักช้าคืนนี้ได้นอนกลางป่าแน่ๆ"พูดจบแอชก็ออกเดินทางอีกครั้งโดยมีเซนเดินตามไปติดๆ
คืนนั้นสุดท้ายทั้งคู่ก็ต้องนอนกลางป่า เพราะเซนไม่สามารถเดินเร็วได้เท่าแอชทำให้เสียเวลาในการเดินทางไปพอสมควร
"ขะ..ขอโทษนะที่ผมมาเป็นตัวถ่วงน่ะ"เซนพูดด้วยท่าทางสำนึกผิด
"ไม่เป็นไรหรอก อย่าคิดมากไปเลยน่า พักผ่อนเถอะ เดี๋ยวคืนนี้ฉันเฝ้าเอง นายคงจะเหนื่อยแล้ว"แอชพูดขณะที่กำลังเขี่ยกองไฟ
"อะ..อืม ราตรีสวัสดิ์นะ"เซนพูดจบก็ล้มตัวลงนอนโดยมีแอชที่จะเฝ้าระวังภัยให้
ตกดึกเมื่อไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติแอชจึงคิดว่าหลับตาพักสักแปบคงไม่เป็นอะไรมาก เขาจึงได้หลับตาลงเพื่อพักผ่อนเอาแรงสักหน่อย
แซ่ก!
เสียงบางอย่างจากพุ่มไม้ทำให้แอชรีบลืมตาตื่นก่อนจะหันปืนไปยังต้นตอของเสียง
"อืม..มีอะไรหรอแอช"เซนที่สะดุ้งตื่นก็หันไปถามแอชด้วยความงัวเงีย
"มีอะไรบางอย่างอยู่ทางนั้น..อยู่นี่นะ ฉันจะไปดูสักหน่อย"สิ้นเสียงของแอชเซนที่ได้ยินอย่างนั้นก็สะดุ้งตกใจสุดขีดก่อนจะรีบควานหาปืนมาถืออย่างเงอะงะ แอชค่อยๆเดินเข้าไปดูใกล้ๆพุ่มไม้
ฟึ่บ!
แอชกระโดดถอยห่างออกมาจากพุ่มไม้นั้นทันที สิ่งที่โผล่ออกมาจากพุ่มไม้กลับมีเพียงแค่กระต่ายตัวหนึ่งเท่านั้นเอง แอชจึงรีบลดการ์ดของตัวเองลงอย่างโล่งอก
"ก็แค่กระต่าย"แอชหันไปหาเซน เซนที่ดูท่าจะโล่งอกได้ไม่นานก็ทำหน้าตกใจอีกครั้ง
"ข้างหลัง! ระวัง!"สิ้นเสียงก็มีดิสมอลตัวหนึ่งกระโจนเข้าหาแอชอย่างรวดเร็ว โชคดีที่แอชคว้าปืนมากันไว้ได้ทัน แต่พละกำลังของดิสมอลนั้นชั่งมากมาย เซนที่ยืนมองอยู่ก็ได้แต่สับสนไม่รู้จะทำอย่างไร
"ยิงมันเลยเซน!"แอชตระโกนบอกเซน
"ไม่ได้ ผมทำไม่ได้ ถ้ามันพลาดไปโดนนายล่ะ"เซนลังเล เพราะถ้าพลาดขึ้นมาความหวังในการมีชีวิตของเขาก็จะยิ่งน้อยลงไปอีก
"ยิงเลย นายทำได้ ฉันเชื่อในตัวนาย"สิ้นเสียงของแอช เซนที่ได้ยินว่าแอชมั่นใจในตัวเขา ก็ทำให้เขาถือปืนจ่อขึ้นมาอย่างกล้าๆกลัวๆพลางจ่อไปที่หัวของดิสมอล มือสั่นอย่างหนักแต่ตอนนี้เขาต้องตั้งสติ แล้วทำอย่างที่แอชสอน ตั้งสติ เล็ง แล้วก็...
ปัง!
เสียงปืนอันดังสนั่น ทำให้ทั้งป่าเงียบสงบลง ร้อมกับร่างของดิสมอลที่เคยคร่อมร่างของแอชไว้ก็ล้มลงไปนอนกับพื้น
"เห็นไหม นายทำได้"แอชลุกขึ้นมาชูนิ้วโป้งให้กับเซน
โฮก!
"แย่ล่ะ พวกมันคงมาทางนี้แน่ ไปเร็ว รีบหนีกันเถอะ"แอชรีบลุกขึ้นก่อนจะรีบจับมือของเซนให้วิ่งไปข้างหน้า
ไม่นานพวกดิสมอลก็ตามมาทัน มันวิ่งไล่พวกเซนไปอย่างไม่ลดละ เซนและแอชมีกระสุนจำกัด รวมกับจำนวนของดิสมอลที่ตามมาเป็นไปไม่ได้ที่จะสู้แล้วเอาชนะพวกมัน ทางเดียวคือต้องวิ่งหนีเท่านั้น เมื่อวิ่งไปได้สักพักทั้งคู่ก็ถูกต้อนจนมุม แอชและเซนยืนอยู่ปลายขอบหน้าผา ซึ่งข้างล่างเป็นน้ำตกไหลเชี่ยว
"เซน! โดด!"แอชหันมาตระโกนบอกเซน สิ้นเสียงทั้งคู่จึงกระโดดลงไปที่น้ำตก
แต่ด้วยน้ำตกที่ไหลเชี่ยวทำให้เซนสำลักน้ำ แอชที่เห็นจึงรีบว่ายเข้ามาหาเซน ก่อนจะกอดร่างของเซนไว้ในอ้อมกอด
"เห้ย! ระวัง!....อั่ก"ข้างหน้ามีก้อนหินที่โผล่มาจากน้ำ แอชรีบหันหลังเอาตัวเองบังเซนไว้ ทำให้ตัวของเขากระแทกเข้ากับก้อนหินอย่างแรง แรงปะทะจากก้อนหินทำให้แอชเจ็บจนสลบไป เซนที่เห็นอย่างนั้นจึงได้กอดร่างของแอชไว้แน่น
"แอช..แค่กๆ..แอช"เซนพยายามปลุกแอช แต่เขาไม่ตอบสนองอะไร เซนรีบมองไปรอบๆเพื่อหาทางขึ้นจากน้ำ แต่ไม่มีอะไรให้ยึดเกราะได้เลยสักอย่าง ทำให้สุดท้ายเมื่อไหล่มากับน้ำเรื่อยๆ ทั้งคู่จึงร่วงตกลงไปในหน้าผาอีกครั้ง
เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาเซนรีบลุกขึ้นและออกเดินลัดเลาะไปตามริมน้ำเพื่อตามหาแอช
"แอช....แอช...แอช"เซนตระโกนเรียกหาแอชแต่ไม่มีเสียงตอบรับ ไม่นานเมื่อเดินริมน้ำเรื่อยๆเซนก็พบกับร่างหนึ่งที่นอนอยู่ริมน้ำ เซนจึงรีบวิ่งเข้าไปดู
"แอช! แอช! ตื่นสิ"เซนพยุงร่างแอชขึ้นมา ก่อนจะพยายามปลุกให้ตื่น แต่ดูเหมือนแอชจะไม่ตอบสนองอะไร เซนจึงวางร่างของแอชลงก่อนจะรีบปั้มหัวใจ
"เร็วเข้าแอสตื่นขึ้นมาเร็วเข้า"เซนปั้มหัวใจสลับกับผายปอดให้แอช
"..แค่ก..แค่ก"แอชสำลักน้ำออกมา เซนโล่งอกที่แอชฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง จึงพุ่งเข้าไปกอดแอชไว้แน่น
"นายฟื้นแล้ว ผมนึกว่านายจะไม่ฟื้นขึ้นมาแล้วซะอีก"เซนกอดแอชแน่นน้ำก็พลางไหลลงมา แอชเลยได้แต่กอดตอบเซน
"โทษทีนะที่ทำให้เป็นห่วง"แอชตอบ หลังจากที่เซนลุกออกไปทั้งคู่ก็ช่วยกันพยุงไปที่ปลอดภัย ก่อนที่เซนจะปฐมพยาบาลให้กับแอช
"ขอบใจนะ"แอชพูดก่อนจะยิ้มให้กับเซน เซนที่เห็นแอชยิ้มก็หน้าแดงด้วยความเขิน
"ไม่เป็นไรหรอก แหะๆ"เซนเอามือเกาหัวแก้เขิน ตอนนี้ทั้งคู่เข้ามาหลบอยู่ในบ้านร้างแห่งหนึ่ง แต่ด้วยความที่แอชบาดเจ็บทำให้ไม่สามารถไปไหนได้สักพัก ทั้งคู่จึงต้องหลบภัยอยู่ในนี้ไปสักพัก
เมื่อจุดไฟเสร็จแอชก็ลุกขึ้นแล้วเดินมานั่งข้างๆเซน ก่อนจะเอาหัวผิงไหล่ของเซน ทำให้เซนตกใจปนความเขิน
"ขอนอนแบบนี้สักพักนะ"พูดพลางหลับตาลง เซนที่เขินอยู่ก็ทำได้แค่พยักหน้าเบาๆ ตอนนี้แอชคงได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นรัวของเซนแล้วแน่ๆ แต่ชั่งเถอะ เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
หลังจากแอชรักษาตัวหายดีทั้งคู่ก็ออกเดินทางกันต่อไปเรื่อยๆ แต่การเดินทางต่อจากนี้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่กลับเปลี่ยนแปลงไป จากที่เดินทางกันอย่างห่างๆ ตอนนี้ระยะห่างเหล่านั้นค่อยๆลดลงไปเรื่อยๆ บางครั้งแอชก็ชอบเดินเข้ามาใกล้ๆ ตอนนอนก็ชอบเข้ามาใกล้ๆเซน ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะไม่ได้พูดกันตรงๆถึงความสัมพันธ์นี้ แต่ความรู้สึกของทั้งคู่ก็คงแน่ชัดแล้วว่าหมายถึงอะไร
หลังจากเดินทางมานานในที่สุดจุดหมายที่ทั้งคู่ตั้งเป้าไว้แต่แรกก็อยู่ตรงหน้า ทั้งคู่ดีใจมากรีบเดินให้ไวขึ้นเพื่อไปถึงที่ปลอดภัย แต่ว่า..
“แหม่ๆ ไหนดูสิเราเจอใคร อ้อ..แอช คนทรยศนั้นเอง”อยู่ๆก็มีเสียงปริศนาดังขึ้นมา ทำให้แอชรู้สึกตกใจไปชั่วขณะ เมื่อมองขึ้นไปก็เจอชายร่างโตคนหนึ่งที่มีบาดแผลที่ตาซ้าย กำลังแสยะยิ้มและมองมาที่แอช และเมื่อมองไปรอบๆตัวก็มีกลุ่มคนที่มาล้อมพวกเขาทั้งคู่
“แหม่นึกว่าใคร ยังไม่ตายอีกหรอ..ดักซ์”แอชยิ้มและมองไปที่ชายที่ชื่อดักซ์ สายตาของเขาที่ดูดุร้ายแบบนี้แม้แต่เซนเองก็ยังแอบกลัวอยู่หน่อยๆ
“ยังปากดีเหมือนเคยเลยนะ ไหนดูสิจะปากดีได้สักแค่ไหนเชียว”เมื่อชายคนนั้นพูดจบ พวกที่เหลือก็ต่างพุ่งเข้ามาที่แอช เมื่อเห็นทีท่าไม่ดีแอชจึงผลักเซนออกไป ทำให้เซนกระเด็นไปอยู่ด้านหลังของถังแถวนั้น แต่ว่าแอชที่กำลังสู้โดยมีพวกมันเกือบ10คน แต่ด้วยความที่พวกมันตัวใหญ่ทำให้การเคลื่อนไหวเชื่องช้ากว่าแอชที่ตัวเล็กแต่ดูคล่องแคล่วและว่องไว
การต่อสู้ดำเนินไปได้สักพัก ก็เหลือเพียงแค่ดักซ์กับแอช ซึ่งสภาพของแอชตอนนี้สะบักสะบอมและดูเหนื่อยอ่อนลงทุกที แต่ทั้งคู่ก็ยังคงต่อสู้กันโดยไม่ได้สนใจรอบข้าง อยู่ๆก็มีดิสมอลตัวหนึ่งที่ไม่รู้มาจากไหนเดินเข้าไปใกล้แอชขึ้นเรื่อยๆ
“แอช! ระวัง!”เซนที่เห็นดิสมอลเดินเข้าไปใกล้แอชตระโกนบอก แต่ดูเหมือนจะไม่ทัน ดิสมอลใกล้ถึงตัวแอชแล้ว ทันใดนั้นเซนก็รีบพุ่งเข้าไปที่ดิสมอลตัวนั้น ทำให้เซนถูกดิสมอลกัดเข้าที่แขน
“เซน! หน่อย..ไปให้พ้นนะดักซ์” แอชซัดดักซ์จนสลบลงไปกับพื้น ก่อนจะหันไปจัดการดิสมอลตัวที่กัดเซน ก่อนจะรีบเข้าไปดูอาการของเซน
“เซน เซนเป็นยังไงบ้าง”แอชสำรวจที่แผลของเซน แต่ไม่ทันแล้วตอนนี้เซนติดเชื้อและกำลังจะกลายเป็นดิสมอลเข้าไปทุกที
“แอช..นาย..รีบ..จัดการฉันซะ”เซนพูดกับแอช แต่แอชได้แต่ส่ายหน้า ไม่ยอม
“ไม่ ฉันทำไม่ได้ ฉันฆ่านายไม่ได้ นายเป็นคนสำคัญสำหรับฉันนะ”แอชพูดพลางน้ำตาทีคลอ
นี่เป็นครั้งแรกในรอบ3เดือนที่ผ่านมาที่เซนได้เห็นแอชในอีกมุม ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกดีใจปนเศร้าก็ตามที
“นายก็..สำคัญกับฉันนะ..เพราะอย่างงั้น..”เซนพูดด้วยลมหายใจที่เริ่มติดขัด พลางเอื้อมมือไปจับที่มือของแอช
“ขอร้องล่ะ..ฉันอยากให้นาย..เป็นคนลงมือ..นะ”เซนพูดพลางยิ้มทั้งน้ำตาที่เริ่มค่อยๆไหลลงมา
แอชที่เห็นอย่างนั้นก็ได้แต่ก้มหน้าลง ก่อนจะลุกขึ้นยืนและจ่อปืนไปที่เซนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเศร้า
เซนยิ้มก่อนที่จะหลับตาพลางคิดในใจ “แบบนี้แหละ ดีแล้ว ขอให้นายโชคดีนะแอช ขอให้นายปลอดภัย และอย่าลืมฉันนะ”
ปัง!